สปอร์ตทัวริ่งซิ่งไปทุกโค้งกับ Ninja650

N650 เพชรบุรี_๑๘๑๐๒๒_0024

Intro

       เจ้า  Ninja 650 นั้นจัดได้ว่าเป็นรถ Sport Touring ในระดับ Middle Weight ที่ได้รับการปรับปรุงภาพลักษณ์หน้าตาและเครื่องยนต์ใหม่หมดจดใน Model ปี 2017 ทำให้การ Model Change เจ้ารถคันนี้นั้นออกมาในรูปลักษณ์ ที่เล็กกะทัดรัดปราดเปรียวกว่าเดิม พร้อมกับเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากเดิม ให้ความสนุกในการขับขี่มากกว่าโฉมเก่าระดับนึงเลยละครับ พร้อมกับไฟท้าย LED รูป X สำหรับ Ninja 650 จากการนำรถไปทดลองใช้งานจริงๆ กว่า 600+km.

Engine & performance

5-5555556


ส่วนเครื่องยนต์นั้น ยังคงใช้เครื่องขนาด 650CC. เท่าเดิม แต่เครื่องยนต์นั้น ให้ความรู้สึก ที่จี๊ดจ๊าดกว่าเครื่องบล็อกเก่า ระดับนึงเลยทีเดียว อาจรู้สึกได้ถึงแรงบิด และ อัตราเร่งที่ สามารถตอบสนองได้เร็วทันใจ จนสัมผัสได้ถึง ความเงิบหงาย เมื่อเปิดคันเร่ง การขึ้นความเร็วที่ 150+ สามารถทำได้แบบไม่ยากเย็น ที่กล้าการันตีแบบนี้นั้น เพราะตัวผมเองขี่ Versys 650 ปี 2017 ซึ่งใช้พื้นฐานเครื่องเดียวกันกับ Ninja650(โฉมเก่า) และ ER6N หากจะให้กล่าวถึงการพัฒนาต่าง ๆ ในด่านเครื่องยนต์นั้น ได้มีการใส่สลิปเปอร์คลัตช์เข้าไปตามยุคสมัย มีการลดแรงม้าลงเล็กน้อยเพื่อให้ผ่านมาตรฐาน EURO 4 แต่การลดแรงม้าลงนั้น ไม่ได้มีผลอะไรมาก เพราะได้มีการชดเชย ด้วยการวางเฟรมรถแบบใหม่ที่หันมาใช้รูปแบบของโครงถัก ที่ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินไป ได้ถึงเกือบ 20kg. ทำให้การขับขี่นั้นเบาสบาย และพลิกรถได้ง่ายขึ้น เป็นเพราะ อัตราส่วน อัตราเร่ง : น้ำหนัก ที่มีมากขึ้น ทำให้รถคันนี้มีกำลัง และ อัตราเร่ง ที่เร้าใจมากกว่าเดิม

 

424

ช่วงล่าง

        สำหรับช่วงล่างนั้น ถูกเซตออกมาให้นุ่มนวลระดับนึงซึ่งเหมาะกับการเดินทางไกลมากยิ่งขึ้น ด้วยโช้คหลังที่ หันกลับมาวางแบบแนวนอน ยึดกับส่วนกลางของเฟรม แทนการวางแบบเยื้องศูนย์ข้างรถแบบโฉมเก่า สามารถปรับได้ถึง7 ระดับ + กระเดื่อง Uni-trak ที่ดูดซับแรงกระแทก ทำให้ได้ฟิลลิ่งที่นุ่มนวล และสามารถตอบสนองการโหนโค้งได้ดี

44506920_691305841248095_3678525066800267264_n

ความประหยัดน้ำมัน

 ในส่วนของการประหยัดนั้น เจ้ารถคันนี้นั้นผมกล้าบอกได้เลยว่ามันประหยัดในระดับนึงเลยสำหรับรถซีซีสูงๆ สามารถอยู่ในโหมด ECO ได้ถึงความเร็วที่ 130 Km./H. และถังน้ำมันขนาด 15 ลิตร ที่เล็กลงจากโฉมเดิมลง 1 ลิตรนั้น สามารถพารถไปได้ไกลกว่า 330 Km.+ จากการทดสอบวิ่งจับไมล์ตลอดการเดินทาง ความเร็ว 120+ และมีค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 22 Km/L.

 

ฟิลลิ่งการขับขี่

       เจ้า  Ninja 650 คันนี้นั้นเหมาะกับ การขี่ทั้งในเมือง และออกทริป ควบคู่กันเพราะอะไรหลายๆ ท่านอาจจะส่งสัย เพราะว่ารถคันนี้ถูกออกแบบมาให้เป็น Sport Touring ที่สามารถขี่เดินทางไกลได้ดีระดับนึง ด้วยท่านั่งที่ไม่ต้องก้มตัวไปข้างหน้ามาก เพราะแฮนด์นั้นเป็น แฮนด์บาร์จัดท่านั่งได้สบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง ไม่ต้องก้มโน้มไปข้างหน้ามากจนเกินไป รวมถึงชิลหน้าเองนั้นก็สามารถปรับได้ถึง 2 ระดับ ช่วยลดลมปะทะจากการขี่เดินทางไกลได้ดี ตัวรถเองนั้นมีขนาดเล็กลงทำให้ คนที่ตัวเล็ก หรือสาวๆ สามารถขี่ได้ง่ายขึ้น ขนาดถังน้ำมันที่เล็กลง และออกแบบให้สามารถหนีบถังได้ง่ายขึ้น ช่วงล่างเซตมาในระดับที่นุ่มนวลต่อการขับขี่ ในชีวิตประจำวัน ความคล่องตัวของรถสามารถ มุดซอกแซกได้ง่ายมาก เพราะมิติรถนั้นเล็กกะทัดรัดพอๆกับรถ ในคลาส 300cc. และมีหมัดเด็ดที่พละกำลัง สามารถตอบสนองต่อการบิดคันเร่งได้

                           44495334_1960107784289154_9165398628422909952_n  44497831_2188258661498480_4930653224953708544_n

                                        44563767_317328539050631_4779788607441338368_n44518074_1034153976745652_6609443558845841408_n

สรุป

        ถ้าหากท่านเป็นคนนึง ที่มีกำลังตัดสินใจระหว่างการเลือกรถ 650 สักคัน ที่มีรูปลักษณ์สปอร์ต “แต่ !!!” มีโจทย์ว่าต้องใช้เดินทางไกลแล้วจะเหนื่อยไหมนั้น ผมขอแนะนำให้ท่านลองมอง Ninja 650 คันนี้เป็นหนึ่งตัวเลือกในใจ เพราะเจ้ารถคันนี้นั้นสามารถตอบโจทย์ ได้ทั้งรูปลักษณ์สปอร์ต และ ความสามารถในการเดินทางแบบทัวริ่ง ด้วยรถที่สามารถติดตั้งอะไหล่เพิ่มความสะดวกในการเดินทางไกลได้เช่น กล่องข้าง กล่องหลัง และ ชิวหน้าแต่ง ได้จากศูนย์บริการ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของท่าน

Like

1.อัตราเร่งที่มาดีตั้งแต่ในรอบต้นถึงกลางทำให้ขี่ได้สนุก

2.ชิลด์หน้าปรับระดับได้เหมาะกับการเดินทางไกล

3.อัตราประหยัด เครื่อง 650 ตัวใหม่ ที่ทำได้ประหยัดกว่าเดิม แม้ถังจะลดลงจากเดิมเป็น 15 ลิตร

4.มีปลั๊ก Power Outlet เดินลอยไว้ให้ติดตั้งโดยไม่ต้องตัดต่อสายไฟ(สำหรับตัวสีธรรมดา)

5.ไมล์ที่บอกค่าได้ครบครันและอ่านค่าต่างๆได้ง่ายขึ้น เฉียบ.....

Don’t Like

1.ช่วงล่างจากโรงงานเซตมานุ่มจนย้วยไปนิดนึง ใครสายโค้ง high Speed แนะนำให้ปรับแข็งขึ้น

2.ชิลด์หน้าที่จะปรับต้องไขน็อตออกหมดแล้วต้องขยับใส่ทีละข้าง (อยากให้ทำเป็นแบบ Ninja 1000)

3.Ground Clearance ที่ต่ำไปนิดหน่อยทำให้ท่อไอเสียใต้ท้องใบเขื่องอาจถูกกระแทกได้ง่าย

 

เครดิตขักเขียนคุณทอม            

ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง

New call-to-action           New call-to-action     New call-to-action