ตารางสเปครถจักรยานยนต์ บอกอะไรได้บ้าง

ตารางสเปครถ บอกอะไรได้บ้าง

ผู้ที่เริ่มสนใจในรถมอเตอร์ไซค์ คงจะฉงนในตัวเลขต่างๆ โดยเฉพาะเวลาเทียบรถหลายๆรุ่น ว่ามันมีความหมายอย่างไร วันนี้เราจะอ่านสเปคแบบง่ายๆ ไม่ลงลึกเกินไป โดยยกตัวอย่างรถ 2 คัน เพื่อดูว่าบอกอะไรเราได้บ้าง โดยผู้สนใจสามารถไปค้นคว้าลงลึกต่อได้ในแต่ละหัวข้อครับ วันนี้อาจจะมีสาระนิดนึงนะครับ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของทุกท่าน ศูนย์ kawasaki Real MotoSports มีอีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับสเปคของรถมอเตอร์ไซค์มาฝากกัน

 
สเปค รถคันที่ 1 รถคันที่2

Engine displacement

Bore/stocke

Compression ratio

power

Torque

773cc twin, air coolrd

77mm x 83 mm

8:4:1

47 hp (35 kw) @ 6,500 rpm

44 lb⋅ft (60 N⋅m)  @2,500 rpm

903cc twin , water cooled

88 X 74.2 mm

9:5:1

50 hp (37 Kw) @5,700 rpm

57.5 lb⋅ft (78 N⋅m ) @ 3,700 rpm

 

        Engine displacement ตัวเลขแรกที่เราจะพบเห็นก่อน  คือปริมาตรกระบอกสูบเครื่องยนต์เป็นลูกบาศก์เซนติเมตร ส่วนมากรถที่มีขนาด CC มากกว่าก็มักจะทำความเร็วได้ดีกว่า ขนาดรถใหญ่กว่า หนักกว่า กินน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า ราคารถสูงกว่า และทางกฎหมายก็จะมองว่าเป็นรถที่บังคับควบคุมได้ยาก เป็นอันตรายกว่า แต่ก็ไม่เป็นไปตามนี้เสมอไป

       Bore/Stroke  คือตัวเลขหน้ากว้างกระบอกสูบ คูณด้วยความยาวช่วงชัก โดยรถที่มีหน้ากว้างกระบอกสูบน้อยกว่าความยาว จะเป็นการออกแบบเครื่องยนต์ให้มีกำลังแรงบิดสูงสุดในรอบเครื่องต่ำ พูดให้เข้าใจง่ายคือ รอบต้นๆรถจะพุ่งดีแต่เมื่อรอบสูงขึ้นอัตราเร่งจะอ่อนลงเร่งไม่ไป  ซึ่งถ้าตรงกันข้ามกัน คือหน้ากว้างกระบอกสูบมากกว่าระยะชัก มักจะเป็นรถที่รอบต้นไม่พุ่งนัก แล้วค่อยมามีอัตราเร่งดีในรอบสูงขึ้น

Bore_Stroke_Ratio_Animation

       Compression ratio อัตราส่วนกำลังอัด สามารถบอกประเภทออกเทนของน้ำมันที่ใช้ได้ เช่นรถที่มีอัตราส่วนที่ 8.4:1 จะเป็นรถที่สามารถใช้น้ำมันได้ยืดหยุ่นกว่า ใช้ออคเทนต่ำเช่น 91 หรือ 95 ก็ได้ ในขณะที่รถที่มีอัตราส่วนเช่น เกิน 10:1 อาจต้องใช้น้ำมันที่มีออกเทน 95 ขึ้นไปเท่านั้นเพื่อไม่ให้เครื่องน๊อค นอกจากนี้เลขอัตราส่วน ยังสามารถบอกได้ว่า รถคันไหนมีแนวโน้มกินน้ำมันเชื้อเพลิงกว่ากัน โดยเครื่องที่มีกำลังอัดต่ำมักจะมีประสิทธิภาพด้อยกว่า เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงกว่ารถที่มีกำลังอัดสูงซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า จึงมักจะเห็นว่ารถที่มีกำลังอัดสูงจะมาพร้อมกับหม้อน้ำเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิ และจะให้ตัวเลขแรงบิดแรงม้าที่ดีกว่า ในขณะที่รถที่ระบายความร้อนด้วยลมจะมีกำลังอัดที่ต่ำกว่า และแรงบิดแรงม้าน้อยกว่า

       Power, Torque แรงม้ากับแรงบิดสูงสุด ให้ดูเทียบกับรอบเครื่อง พูดให้เข้าใจง่ายสุดได้ว่า แรงบิดเป็นอัตราเร่ง ส่วนแรงม้าเป็นความเร็วสูงสุด รถที่มีแรงบิดสูงสุดมากกว่า อยู่ในรอบที่ต่ำกว่าก็มักจะมีอารมณ์บิดออกตัวแล้วพุ่งดีกว่าแต่ความเร็วปลายแรงไม่ค่อยมี ส่วนรถที่มีแรงม้าสูงสุดมากกว่าและมาในรอบที่สูงกว่า ก็มักจะเป็นรถที่มีความเร็วปลายสูงกว่าเป็นต้น

สเปค รถคันที่ 1  รถคันที่ 2
Transmission 5-speed, chain drive 5-speed, belt drive
Rake 27° 32°
Front Tire Size 100/90-19 130/90-16
Rear Tire Size 130/80-18 180/70-15
Wheelbase 1465 mm 1650 mm
Seat Height 790 mm 680 mm
weight 217 kg 282 kg

 

        Transmission  ในปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซค์ส่วนมากจะมีตั้งแต่ 4-6 เกียร์ โดยรถที่มีแค่ 4 เกียร์ จะเป็นรถขนาดเล็กทำความเร็วได้จำกัดเช่น วิ่งได้เพียง 100 km/h โดยปัจจุบันจะนิยมรถที่มี 6 เกียร์ เพราะให้อัตราเร่งที่ลื่นไหลต่อเนื่องกว่า จะหากรถคันนั้นมีอัตราทดแบบ overdrive ในเกียร์ 6 ก็ยิ่งช่วยให้ใช้รอบที่ต่ำลงในความเร็วเท่ากัน ประหยัดน้ำมัน และรถสั่นสะท้านน้อยกว่า รถที่มีเพียง 4-5 เกียร์

105295

      Rake องศาของตะเกียบโช้คหน้า  ยิ่งองศามากเช่นรถแนวครุยเซอร์ ช้อปเปอร์ ก็จะยิ่งมีความนิ่งของตัวรถในทางตรง โดยแลกกับความคล่องแคล่วว่องไวในการเลี้ยวที่ลดลง เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกลๆ ทางตรงยาว ใช้ความเร็วสูง รถที่มีองศาน้อยเช่นรถสไตล์ Naked จะเหมาะสำหรับใช้ในเมืองที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า หรือทางคดเคี้ยวในเขา

vulcans-abs-orange-01-798x466

       Front, Rear Tire Size  ขนาดของยางหน้าหลัง (เลขตัวเลข) บอกอะไรได้บ้าง ยางหน้าที่แคบ (เช่น 100 ในรถคันที่ 1) จะบังคับเลี้ยวได้ง่ายกว่า คล่องกว่า ในขณะที่ยางหน้าที่กว้าง (130 ในรถคันที่ 2) จะบังคับเลี้ยวยากกว่าแต่รถจะนิ่งมั่นคงกว่าในทางตรง นอกจากนี้ยังบอกถึงประเภทของรถ  เช่นรถสปอร์ตจะมียางหลังที่กว้าง เพื่อให้สามารถเอียงรถใช้ความไวในโค้งได้มากกว่า ในขณะที่รถแนววิบากจะมียางที่แคบกว่าซึ่งเหมาะกับเส้นทางออฟโรด ขนาดของหน้ายางยังเกี่ยวข้องกับน้ำหนักของรถ กล่าวคือ รถที่เบากว่าก็มักจะมีหน้ายางที่แคบ รถที่หนักมากขึ้นก็มักจะมีหน้ายางที่กว้างเพื่อกระจายความร้อนลดการสึกหรอของ

105297

       Wheelbase ระยะฐานล้อที่สั้น รถจะมีลักษณะเพรียว คล่องแคล่วว่องไว เหมาะสำหรับขี่ในเมือง หรือทางคดเคี้ยวในเขา แต่ความนิ่งของรถจะไม่สู้รถที่มีฐานล้อยาวกว่า ซึ่งจะอุ้ยอ้าย ไม่ปราดเปรียว เหมาะสำหรับใช้นอกเมือง ทางตรงยาว ความเร็วสูง

105296

 

      Seat Height  เป็นตัวชี้ว่า เมื่อนั่งบนรถแล้วเท้าทั้งสองข้างจะแตะถึงพื้นหรือไม่ มีผลต่อความยากง่ายในการควบคุมรถโดยเฉพาะมือใหม่ ความสูงเบาะ 690มม หรือน้อยกว่าถือว่าเป็นเบาะเตี้ย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถนั่งแล้วยันพื้นได้สบายทั้งสองขา ช่วยสร้างความมั่นใจสำหรับมือใหม่ได้ดีกว่า ในขณะที่รถที่มีความสูงเบาะเกิน 800มม ขึ้นไป สำหรับมือใหม่ที่ช่วงขาสั้นจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย และต้องอาศัยเทคนิคมากขึ้นในการขับขี่

kw-product-feature-1-1

       Weight  น้ำหนักของตัวรถสำหรับรถบิ้กไบค์แล้ว เริ่มที่ 150-180 กก. ถือว่าเป็นรถน้ำหนักเบา  ซึ่งเป็นมิตรกับสุภาพสตรีที่สุด 190-220 ถือว่าเป็นคลาสน้ำหนักปานกลาง 230 ขึ้นไปจะเป็นรถที่มีน้ำหนักมาก ต้องใช้พลังและทักษะในการบังคับรถมากขึ้น รถที่น้ำหนักเบาก็จะเหมาะสำหรับขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องแคล่ว และไม่ได้ใช้ความเร็วมาก ทั้งยังประหยัดน้ำมัน มักจะมาพร้อมขนาด cc เครื่องไม่ใหญ่นัก ในขณะที่รถน้ำหนักเยอะจะนิ่งกว่า ปลอดภัยกว่าในการใช้ความเร็วสูงๆ แต่จะเหนื่อยมากหากต้องวิ่งฝ่ารถติดในเมือง และกินน้ำมันมากกว่าด้วย สำหรับมือใหม่แล้วขอให้ระวังรถประเภท cc สูง แต่น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งมักจะเป็นรถแนวซุเปอร์สปอร์ต ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ ทักษะ และความใจเย็นเป็นพิเศษในการขับขี่ให้ปลอดภัย ดังนั้นเวลาเลือกซื้อรถก็ควรพิจารณาน้ำหนักของรถให้เหมาะกับการใช้งานและทักษะของแต่ละคน จะช่วยให้มีความสุขในการขับขี่มากขึ้นครับ

       สุดท้ายนี้ ผู้อ่านคงพอเดาได้แล้วว่า ว่ารถคันที่ 1 กับ 2 ในตาราง เป็นคันไหนในรูปข้างล่าง

                                             1280px-Kawasaki_W_800_right_side Vulcan_900_Classic

 

เครดิตขักเขียน คุณปอ 

ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง

New call-to-action           New call-to-action      New call-to-action