ปัญหาท่อลั่น พร้อมเผย..วิธีวัดเดซิเบลที่ถูกต้องและการแก้ไขแบบประหยัด

        เรื่องที่พูดถึงกันมากในวงการสองล้อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการกวดขันท่อแต่ง ท่อลั่น ของเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่การห้ามรถท่อแต่งเข้าเขาใหญ่ เนื่องจากมีคนเลี่ยงยัดไส้ฝอยขัดหม้อ และเอาออกหลังผ่านด่าน การจับกุมแหล่งผลิตท่อลั่นในไทย ตามมาด้วยการตั้งด่านวัดเสียงร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งมีความเข้มข้นถึงขนาดถ้าเสียงเกินมาตรฐาน 95 เดซิเบล ก็กวักเรียกแท็กซี่กลับบ้านได้เลยเพราะมีการยึดรถชั่วคราวด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสยดสยอง อันดับต้นๆ ของคนรักรถ หากต้องโดยยึดรถไป ครั้งนี้ ศูนย์ Kawasaki Real MotoSports จะมาบอกวิธีวัดเสียง ขั้นตอนในการวัด และวิธีลดเสียงที่นิยมใช้กัน

ศูนย์ Kawasaki       ในบรรดาของแต่งรถทั้งหลาย เป็นความจริงที่ว่า ท่อแต่ง คือไอเท็มอันดับต้นๆ ที่หลายคนหามาเปลี่ยนใหม่ หลายครั้งบริษัทรถก็จัดแคมเปญแถมมาให้เป็นสิ่งดึงดูดใจคนซื้อ โดยเหตุผลก็มีหลากหลาย เช่น เพื่อให้รถคันอื่นบนถนนได้ยินได้สังเกต ชอบเสียงที่ดุดัน ความสวยงาม ฯลฯ แต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า เสียงที่เพิ่มขึ้นจนเกินพอดีก็สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่คนทั่วไป  ในต่างประเทศ ท่อแต่งที่ผลิตออกมาขาย ต้องผ่านมาตรฐานของกลุ่มประเทศนั้นๆ มีการประทับตรายืนยัน แยกประเภทว่า ท่อรุ่นนี้สามารถใช้บนถนนได้ถูกกฎหมาย ผ่านค่าไอเสีย และเสียงไม่เกินกำหนด หรือเป็นท่อสำหรับใช้ในสนามแข่งเท่านั้น ห้ามใช้บนถนนสาธารณะ เป็นต้น  

       ปัญหาของท่อแต่งในบ้านเราคือ ท่อของแท้จากผู้ผลิตต่างประเทศนั้น เมื่อนำเข้าบวกภาษีแล้ว อาจมีราคาสูงมาก ตั้งแต่ระดับหมื่นไปถึงครึ่งแสน จนหลายคนเอื้อมไม่ถึง หันไปซื้อท่อแต่งในประเทศที่มีราคาถูกกว่ามากแทน มีทั้งแบรนด์ไทย และของทำเลียนแบบเกรดต่างๆ แต่ท่อเหล่านี้ก็มีปัญหาเรื่องมาตรฐาน เพราะผลิตมาแค่ให้ได้เสียงที่ถูกใจ แต่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องระดับเสียง และมลพิษจากที่พูดคุยมาก หลายคนก็กำลังกังวลว่า ท่อที่ใช้อยู่นั้นจะผ่าน ไม่เกิน 95 เดซิเบลหรือไม่ หลายท่านซื้อรถมือสองมา เจ้าของเดิมใส่ท่อแต่ง หรือทำท่อผ่า และไม่มีท่อเดิมติดมาให้ ก็ยิ่งน่าเห็นใจ ครั้นจะให้ไปซื้อท่อชุดใหม่กับทางบริษัทรถ ราคาก็สูงพอๆ หรืออาจจะแพงกว่าท่อแต่งด้วยซ้ำ

การวัดค่าเดซิเบลที่ถูกต้อง

      ในเมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดขึ้น เราก็ควรจะทำความเข้าใจว่า วิธีการวัดค่าเดซิเบลของเจ้าหน้าที่นั้น ทำกันอย่างไร เพื่อจะได้สามารถโต้แย้งได้ หาก จนท. ไม่ได้กระทำตามขั้นตอนถูกต้องตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก ปี 2548 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

download

  1. ระดับเสียงรวมถึงลม บริเวณที่จะทำการวัดต้องไม่เกิน 85 เดซิเบล

  2. พื้นที่วัดต้องเป็นที่โล่ง ไม่มีกำแพง หรือวัตถุอื่นในระยะ 3 เมตร

  3. จอดห่างจากขอบทางอย่างน้อย 1 เมตร เข้าเกียร์ว่าง อุ่นเครื่องจนร้อนปรกติ หรือไม่น้อยกว่า 5 นาที

  4. เครื่องวัดห่างจากปลายท่อ 0.5 เมตร เอียงทำมุม 45 องศา

  5. ต้องไม่มีบุคคลหรือสิ่งกีดขวางอยู่ภายในบริเวณ 0.5 เมตร จากไมโครโฟนของเครื่องวัดระดับเสียง

  6. เร่งเครื่องแช่ไว้ทีความเร็วรอบ ¾ ของรอบเครื่องที่ให้แรงม้าสูงสุด (สำหรับรถที่แรงม้าสูงสุด ไม่เกิน 5000 รอบ/นาที)  หรือ แช่ที่ ½ ของรอบเครื่องที่ให้แรงม้าสูงสุด (สำหรับรถที่แรงม้าสูงสุด เกิน 5000 รอบ)

e0b982e0b8a5e0b982e0b881e0b989e0b895e0b8a3e0b8ad

ninja400

ตัวอย่าง รถคาวาซากิ นินจา 400 มีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 45 แรงม้า ที่รอบเครื่อง 10,000 รอบต่อนาที ก็ให้เร่งแช่ไว้ที่ครึ่งนึง หรือที 5,000 รอบต่อนาที ซึ่งเจ้าของรถควรมีหนังสือคู่มือประจำรถติดไว้ เพื่อไว้ใช้โต้แย้ง โดยอ้างอิงจากเสป็คในหนังสือคู่มือได้

 ซึ่งจุดนี้เป็นประเด็นที่ต้องจำให้ดีๆ ในประกาศของกรมการขนส่ง “ความเร็วรอบสูงสุด” หมายความว่า ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุด พูดให้เข้าใจง่าย คือรอบเครื่องที่ให้แรงม้าสูงสุด **ไม่ใช่สูงสุดตามรอบเรดไลน์ที่เห็นบนเรือนไมล์**
7. วัดเสียง 2 ครั้ง ถือเอาค่าที่มากกว่าเป็นระดับเสียงที่วัดได้
8. หากวัด 2 ครั้งแล้ว ค่าที่ได้แตกต่างกันเกิน 2 เดซิเบล ต้องทำการวัดใหม่ตั้งแต่ต้น

อยากรู้ว่าท่อเราเสียงเกินหรือไม่?

       สำหรับคนที่กังวล อยากรู้ล่วงหน้าว่าท่อที่ใช้อยู่นั้นเสียงเกินกำหนดหรือไม่ เพื่อความมั่นใจไม่ไปเสี่ยงที่ด่านวัด สามารถเข้าไปขอทดสอบวัดได้ที่ ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. ตามจุดต่างๆ จะมีเครื่องวัดเสียงมาตรฐาน สำหรับรถจักรยานยนต์ เสียเพียงคันละ 60 บาท

3480_94108_p1

ส่วนแอพวัดเสียงที่ดาวโหลดมาใช้กับมือถือเช่น Decibel Meter ใช้แค่ทดลองเล่นๆกับบ้าน ความแม่นยำอาจจะมากน้อย มีปัจจัยหลายอย่างเกินควบคุม โดยเฉพาะความสามารถของไมค์มือถือแต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน ไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิง หรือโต้แย้งกับเจ้าหน้าที่ได้ครับ

ถ้าเสียงเกินจะแก้ไขอย่างไร โดยกระเป๋าไม่ฉีก

      หากทดลองกับเครื่องวัดเสียงมาตรฐาน แล้วสียงเกินกำหนดจะทำอย่างไร แก้ไขอะไรได้บ้าง ง่ายที่สุดก็คือกลับมาใส่ท่อเดิมจากศูนย์สำหรับคนที่มีเก็บไว้อยู่ แต่สำหรับคนที่ไม่มีและไม่อยากเสียเงินเป็นหมื่นเพื่อซื้อท่อแท้จากศูนย์ ก็ขอแนะนำให้หาซื้อจุดอุดเสียง มาใช้กันครับ                  

         1-536657120723222223s-l640
จุดอุดเสียงมีขายทั่วไป  ชิ้นละไม่กี่ร้อยบาท  มีทั้งแบบที่ใส่ในรูส่วนท้ายสุดของปลายท่อ จริงๆ แล้วส่วนใหญ่จะเรียกกันอยู่สองแบบคือ จุกสดเสียงกับแคทเทอไรติก กับใส่ระหว่างคอท่อกับพักปลายท่อ จะมีหลายขนาดให้เลือก วัดตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของรูท่อ โดยจะลองใส่แค่ 1 ก้อนดูก่อน จากที่ทดลองมาสามารถลดเสียงที่เคยรำคาญหูตัวเองขณะขี่ ลงมาอยู่ในระดับที่กำลังฟังสบายๆหู หรือจะใส่ทั้ง 2 ก้อนก็จะยิ่งเงียบกริบขึ้นมากจนแทบจะเท่าท่อเดิมจากศูนย์เลย ก็จะเป็นทางออกที่ไม่เสียเงินมาก สำหรับคนที่ไม่สามารถหาท่อแท้ของศูนย์ได้ครับ

ศูนย์ Kawasaki Real MotoSports มีความตั้งใจที่จะมอบบทความดีๆ แบบนี้ให้กับทุกท่าน อ่านข่าวสารเกี่ยวกับ Kawasaki เพิ่มเติม คลิก

เครดิตขักเขียน คุณปอ-1 

บทความโดย DimsumRacer ปอ

ปอ เป็นผู้ที่หลงไหลรถ 2 ล้อติดเครื่อง โดยมักหาความรู้ต่างๆจากหนังสือและสื่อต่างประเทศ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกด้วยรถ 150cc ก่อนยุคบิ๊กไบค์บูมในไทย ก่อนจะมาใช้รถหลากหลายสไตล์และยี่ห้อ ตั้งแต่ 125-900cc ปัจจุบันเขาหลงไหลรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคเป็นพิเศษ ที่เรียกตัวเองว่า ติ่มซัมเรซเซอร์ เพราะความชื่นชอบรถคาเฟ่เรซเซอร์ แต่ชงเอสเปรสโซ่เองที่บ้าน และขี่พาสก๊อยไปกินติ่มซัมมากกว่า

 

ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง

New call-to-action           New call-to-action      New call-to-action